สอท.ยื่นข้อเสนอรัฐบาลเร่งจัดการปัญหาขยะ57ล้านตันอย่างยั่งยืน
หวั่นRoadmapจัดการขยะทั้งระบบล้มเหลว ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม สอท.ยื่น3ข้อเสนอถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาขยะของประเทศ57ล้านตันอย่างยั่งยืน

นายธีระพล ติรวศิน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่5ก.พ.2559ที่ผ่านมาว่า ปัจจุบันประเทศไทยประเทศไทยมีขยะมูลฝอยชุมชนอยู่รวมประมาณ57ล้านตัน โดย เป็นขยะที่เกิดขึ้นปีใหม่ปีละประมาณ 27ล้านตัน และเป็นขยะเก่าที่สะสมอยู่เดิมมากกว่า 30 ล้านตัน โดยส่วนใหญ่ใช้วิธีกำจัดขยะโดยบ่อขยะเปิดที่มีมลพิษสูง (Open dump site) ที่มีอยู่มากถึง2024แห่ง ซึ่งเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ปัญหาเรื่องขยะมูลฝอยชุมชนมีแนวโน้มที่จะรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้มีพิจารณาถึงคุณสมบัติของขยะที่มีความแตกต่างกัน ทั้งในเชิงพฤติกรรมการบริโภค วินัยในการคัดแยกขยะ สภาพภูมิอากาศ วงจรการเก็บรวบรวมขยะ รวมทั้งการไม่ส่งเสริมการจัดการขยะตามหลักสากล (Waste Management Hierarchy ) ซึ่งควรส่งเสริมการจัดการขยะตามหลัก 3R เป็นลำดับแรก การนำขยะมูลฝอยชุมชนมา เผาร่วมในเตาเผาอุตสาหกรรมหรือ เตาเผาขยะ แล้วค่อยกำจัดที่บ่อฝังกลบตามลำดับ

นอกจากนี้ยังมีปัญหาการการขนส่งขยะสดข้ามเขตไปยังพื้นที่ห่างไกลออกไปหรือข้ามจังหวัดที่ไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีทำให้ชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงโรงจัดการขยะได้รับความเดือดร้อนรำคาญจากปัญหากลิ่นขยะรบกวนและปัญหาน้ำขยะหกล้นระหว่างการขนส่ง รวมทั้งการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับมูลค่าของขยะที่เกินความเป็นจริงซึ่งเป็นอุปสรรคในการขัดขวางการจัดการขยะให้ถูกสุขลักษณะ
นายธีระพล กล่าวว่าถึงแม้ว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจะมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องขยะมูลฝอยชุมชน โดยกำหนดให้การแก้ปัญหาขยะเป็นนโยบายเร่งด่วนของประเทศและให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงมหาดไทยจัดทำ Roadmap การจัดการขยะ แต่ก็ยังมีปัญหาในการสร้างการยอมรับให้กับชุมชนรอบโรงขยะโดยยังมีความล่าช้าในการกำหนดมาตรฐานการออกแบบและมาตรฐานการเดินโรงไฟฟ้าขยะหรือโรงจัดการขยะอื่นๆ ซึ่งทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นในเรื่องของความปลอดภัยและยังต่อต้านโรงไฟฟ้าจากขยะอีกทั้งนโยบายการส่งเสริมโครงการขยะก็ไม่ได้มีการพิจารณาด้านเทคโนโลยีที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีปัญหาการพิจารณาใบอนุญาตที่ต้องผ่านหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงมหาดไทย, กกพ, คพ และหน่วยงานการไฟฟ้า เป็นต้น ทำให้มีความล่าช้า
“ทางกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม สอท. จึงมีข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาขยะของประเทศอย่างยั่งยืนถึงรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาใน3ประเด็นหลักคือการยกระดับมาตรฐานสิ่งแวดล้อมในการจัดการขยะเพื่อสร้างการยอมรับกับชุมชนการคัดเลือกเทคโนโลยีกำจัดขยะที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่โดยให้รายใหญ่ที่มีความพร้อมเป็นผู้นำร่องในการลงทุนก่อน รวมทั้งการปรับโครงสร้างการทำงานให้มีการประสานงานกันระหว่างภาครัฐและเอกชนผู้ลงทุนให้มีเอกภาพในการทำงานมากขึ้น “นายธีระพล กล่าว



นายธีระพล กล่าวด้วยว่า ในขั้นตอนการดำเนินการรัฐบาลควรต้องกำหนดโครงการขยะที่จะส่งเสริมนำร่องบางส่วนเท่าที่จำเป็นก่อน โดยพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้รอบคอบ ซึ่งจะช่วยป้องกันการต่อต้านของชุมชนในระยะยาว โดยพิจารณาคัดเลือกผู้ดำเนินการจัดการขยะที่มีมาตรฐานสูงๆมาเป็นต้นแบบในการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าโดยกำหนดเกณฑ์มาตรฐานการจัดการขยะและโรงไฟฟ้าขยะให้ครบถ้วน ทั้งมาตรฐานออกแบบ มาตรฐานเครื่องจักร และมาตรฐานการเดินระบบ
รวมทั้งในช่วงแรกควรหลีกเลี่ยงการขนส่งขยะสดข้ามจังหวัด หรือขนส่งขยะสดระยะทางไกลๆ โดยส่งเสริมให้คัดแยกขยะที่แหล่งขยะก่อน ตามหลักGreen Supply Chainเพื่อความยั่งยืนในการดำเนินการสำหรับการปรับโครงสร้างการทำงานเพื่อให้เกิดการประสานงานระหว่างภาครัฐและเอกชน นั้นก็ควรกำหนด Cluster ขยะในแต่ละจังหวัดให้ชัดเจนและให้มีผลบังคับใช้ในระยะยาวเพื่อให้เอกชนมีความมั่นใจในการลงทุนเครื่องจักรมาตรฐานสูงได้ โดยการบริหารจัดการเกี่ยวกับการกำจัดขยะก็ควรให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด เพราะมีความสามารถในการนำเทคโนโลยีผลิตสมัยใหม่มาใช้ และมีการบำรุงรักษาเครื่องจักรที่ต้องดำเนินการอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการอำนวยความสะดวกด้านใบอนุญาตต่างๆให้กับโครงการที่ได้รับการส่งเสริม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่รัฐตัดสินใจสนับสนุน เพื่อให้สามารถดำเนินการได้รวดเร็ว

ที่มา: http://energynewscenter.com/index.php/article/detail/16